โรงภาพยนตร์ เฉลิมพลรามา เคยรุ่งเรืองชนิดคนดูแน่นโรง แต่พอมีผีดุมาอาละวาดหลอกคนแทบทุกวัน รายได้ก็ตกฮวบ โตมร (สมพงษ์ คุนาประถม) หลานชาย ลุงปาย (บุญชื่น บุญเกิดรัมย์) เจ้าของโรงภาพยนตร์ จึงหาเรื่องจะขายที่นี่ทิ้ง ส่วนลุงปายอยากเก็บรักษาไว้ ทั้งคู่จึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด อีกสาเหตุที่โตมรอยากขายโรงภาพยนตร์ เพราะ พลอย (วิสา สารสาส) นายหน้าที่มาติดต่อซื้อ โตมรหลงรักพลอย จึงเสนอตัวเกลี้ยกล่อมลุงปาย แต่พูดเท่าไรก็ไม่สำเร็จ
ผู้คนในละแวกโรงภาพยนตร์ ยังมีพนักงานเดินตั๋ว นำด้วย เปรี้ยว (ดวงฤดี บุญบำรุง) หวาน (ขวัญนภา เรืองศรี) สองสาวพนักงาน พี่ด้วง (ค่อม ชวนชื่น) พนักงานเดินตั๋วคู่หูกับ เค (อนุชิต กุลศรี) พนักงานรุ่นน้อง แถมด้วย ป๋อง (โก๊ะตี๋ อารามบอย) เด็กส่งฟิล์มภาพยนตร์ ผู้ซึ่งเมาตลอดเวลาที่ส่งฟิล์ม ทั้งสองจึงต้องวนเวียนเข้าส้วมกันบ่อยๆ
ตลอดเวลาที่โตมรกลุ้มใจ ทั้งปัญหาหัวใจและโรงภาพยนตร์ ก็ได้เพื่อนแปลกหน้า วิน (กวี ตันจรารักษ์) โชเฟอร์แท็กซี่ละแวกนั้น คอยให้คำปรึกษาดีๆ จนโตมรแก้ปัญหาได้เสมอ ทั้งที่โตมรไม่เคยรู้ความเป็นมาของวินมาก่อนเลย แต่ทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนสนิทกันได้
เมื่อถึงเวลาที่โรงภาพยนตร์จะต้องปิดตัว พนักงานทุกคนต่างร่วมใจกันแยกย้ายไปหางานพิเศษ หวังนำเงินมาช่วยโรงภาพยนตร์ บ้างไปเป็นนักแสดงแทน บ้างไปเป็นหมอนวดแผนไทย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทุกคนกลับมาอย่างหงอยๆ เพราะไม่ใช่งานที่ถนัดอย่างตำส้มตำ หรือร้องรำทำเพลงที่ชอบบรรเลงกันทุกเย็น
โตมรเริ่มได้คิด ยิ่งได้รู้ตัวตนแท้จริงของวิน ทำให้โตมรตัดสินใจทำบางอย่าง เพื่อความสุขของวินบ้าง และพลิกเปลี่ยนโรงภาพยนตร์สู่มิติใหม่ โดยอาศัยอาวุธเด็ดของชาวโรงภาพยนตร์ นั่นคือความเฮฮาและเสียงดนตรี มหกรรมความฮา กับเสียงดนตรีสุดเร้าใจ จะเปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นเสียงหัวเราะสนั่นลั่นโรงภาพยนตร์ก็หนนี้ล่ะ
